www.i-dealtravel.com  
August 26, 2009
บริษัท ไอดีล ทราเวล จำักัด
..แนวคิดใหม่ของคนทันสมัยเช่นคุณ บริการ รับจัดกรุ๊ปทัวร์ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกในแบบฉบับที่คุณต้องการ..
แชงกรีล่า"SHANGRI-LA" คืออะไร ?

แชงกรีล่า(Shangri-la) คืออะไร หลายๆคนคงคุ้นหูกันมาเป็นเวลาช้านาน "แรมแชงกรีล่า" ที่โ่ด่งดังไปทั่วโลก แต่นั่นยังไม่ไช่ที่มาของ คำว่า"แชงกรีล่า" แชงกรี-ล่าเป็นดินแดนปริศนาที่ยากจะระบุชัดว่าเป็นที่ใดในโลกกันแน่ ทว่าชื่อ แชงกรี-ล่าเป็นที่รู้จักทั่วไป เนื่องมาจากนวนิยาย ของ James Hilton เรื่อง Lost Horizon ที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ ถ่ายทอดเรื่องราวของ เมืองในอุดมคติ เมืองที่ผู้คนไผ่ฝัน ซึ่งผู้คนมีชีวิตอมตะ นับถือศาสนาพุทธนิกายลามะ เมืองตั้งอยู่ ในอ้อมแขนของภูเขาหิมะ อันสวยงาม เป็นที่ต้นกำเหนิดของแม่น้ำสามสาย ผู้คนเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส โดยคำว่า "แชงกรีล่า" สันนิษฐานว่าหน้าจะ เกิดมาจากภาษาฑิเบต ที่พูดเพลี้ยนมาจนเป็นคำว่า "แชงกรีล่า" บางก็กล่าวว่ามา มาจากคำว่า “ ชัมบาลา” (xiangbala) หมายถึงว่า ดินแดนแห่งความสุขและความสงบ ซึ่งประเทศที่มีดินแดน ติดกับเขตฑิเบตก็จะกล่าวอ้างว่า ดินแดนในเขตประเทศของตน นั่นแหละคือ แชงกรีล่า ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย เนปาล ภูฏาน ปากีสถาน และจีน แต่สำหรับแชงกรี-ลานี้จีนได้ประกาศเป็นทางการ ว่าดินแดนนี้อยู่ที่ชายแดนทิเบต ตอนเหนือของมณฑล ยูนนาน เขตปกครองตนเอง ตี๋ชิ่ง[Diqing] ซึ่งจะมี 3เมืองใหญ่ เมืองจงเตี้ยน [Zhongdian] เมืองเต๋อชิง[Deqen] และเมืองเหว่ยซี[WEIXI] และได้สร้างสนามบินขึ้นท ี่เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองตี๋ชิง คือเมืองจงเตี้ยน และได้ตั้งชื่อ สนามบินว่า สนามบินแชงกรีล่า และได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยน มาเป็นชื่อเมืองแชงกรีล่าตามสนามบิน ใีนปี พ.ศ.2544


เส้นทางในการเดินทาง ท่องเที่ยว แชงกรีล่า Shangri-La
แชงกรีล่าตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน มณฑลยูนนาน (Yunnan) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ใหญ่เป็น อันดับ 6 ของประเทศ มีพื้นที่ 394,000 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 34 ล้านคน พื้นที่ทางตะวันออกเป็นเขต ที่ราบสูงยูนนาน และเขตตะวันตกเป็นส่วนหนึ่งของ Tibetan Highlands
ส่วนใหญ่มักเริ่มต้นที่เมืองหลวง
มณฑลยุนนาน คุนหมิง (Kunming) เป็นเมืองหลวงของมณฑลยุนนาน ตั้งอยู่ที่ ระดับความสูง 1,890 เมตรเหนือระดับทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สำหรับผู้ที่เคยเดินทางมาเที่ยวคุนหมิงแล้ว อาจจะเป็น รายการ คุนหมิง 4วัน คุนหมิง-ต้าหลี่-ลี่เจียง 6วัน อะไรก็ตามคงทราบดี ว่าเมืองคุนหมิงในปัจจบันนี้ จะเป็นแหล่งลงร้านช้อปปิ้ง ทั้งไขมุก ผ้าไหม ใบชา สมุนไพร หยก คริสตอล และยาเป่าฟู่หลิง(หัวหิมะ) ผู้ที่เคยมาแล้วมักจะขอให้เมืองคุนหมิงเป็นแค่เมืองแวะเปลี่ยนเครื่องบินเท่านั้น

สถานที่เที่ยวที่สำคัญ :

วัดหยวนทงซื่อ (Yuantong Si) อยู่ที่ถนนหยวนทงซื่อเสียค่าเข้าชม 4 หยวน เป็นอารามในพุทธศาสนา ที่ใหญ่ที่สุดในคุนหมิง อายุเก่าแก่กว่าพันปี ภายในวัดตกแต่งร่มรื่นกลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพาน ข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยม ด้านหลังวัดเป็นอาคารสร้างใหม่ประดิษฐานพระชินราชจำลองที่ไทยมอบให้กับ รัฐบาลจีน ในสมัยของนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
เขาซีซานประตูมังกร ห่างจากตัวเมือง 29 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของวัดลัทธิเต๋า สร้างในช่วง ค.ศ.1718-1843 เดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาผ่านอุโมงค์หินที่สกัดไว้ตามไหล่เขา เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าและวัดจีนลัทธิเต๋า ซึ่งสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับ 1,000 ปี ด้านบนสามารถ ชมความงามของ ทะเลสาบคุนหมิง เตือนฉือ จากมุมมองจากที่สูง และลอดประตูและจับไข่มังกร หลงเหมิน ซึ่งสร้าง ขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง เชื่อกันว่าเป็น ประตูแห่งความสิริมงคล ซึ่งถ้าผู้ใดได้เดินลอดผ่านประตู แห่งนี้ จะประสบแต่ความสำเร็จโชคดี ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมหน้าผา

ป่าหิน (Shi Lin) - Stone Forestห่างจากคุนหมิงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 120 กม. นั่งรถออกไปจากตัวเมือง คุนหมิง ประมาณ 2-3 ชั่วโมง บริเวณนี้เมื่อ 200 ล้านปี ก่อนเป็นทะเล ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของ เปลือกโลกทำให้กลายเป็นแผ่นดินที่ยกตัวสูงขึ้นมา ถูกลม ฝน น้ำ กัดกร่อนจนกลายเป็นรูปร่างต่างๆ ป่าหินบริเวณนี้มี 2แห่งคือ ซือหลิน และไหน่กู่ซือหลิน
ภาพเมืองคุนหมิง http://www.terragalleria.com/asia/china/kunming/kunming.html

เมืองที่อยู่เหนือเมืองคุนหมิงขึ้นมา เมืองต้าหลี่ (Dali) เมืองต้าหลี่อยู่ห่างจากเมืองคุนหมิง ถ้านั่งรถบนทางด่วน ก็จะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ตัวเมืองต้าหลี่อยู่ทางตะวันตกของทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai Lake) บนความสูง 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีเทือกเขาชางซาน (Cangshan Mountain Range) ทอดตัวอยู่เบื้องหลัง ผู้คนในเมือง ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าไป๋ ตั้งรกรากแถบนี้มากว่า 3,000 ปีแล้ว

สถานที่เที่ยวสำคัญ :

วัดฉ่งเชิ่งเป็นที่ตั้งเจดีย์ 3 องค์ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เจดีย์ทั้งสามไม่ได้สร้างพร้อมกัน องค์กลางซึ่ง สูง 70 เมตร สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (สมัยอาณาจักรน่านเจ้า) ซึ่งเชื่อว่าโลกเป็นผืนดินสี่เหลี่ยม ด้านข้าง อีก 2 องค์สร้างสมัยราชวงศ์ซ้อง สูง 43 เมตร เป็นทรงแปดเหลี่ยม เพราะสำหรับคนจีนแล้ว แปดเหลี่ยมถือว่าเป็นวงกลม

เมืองเก่าต้าหลี่ ประตูเมืองเก่า เป็นเมืองที่ได้รับการบูรณะใหม่ เป็นย่านเดินเที่ยวชม ช้อปปิ้ง ให้บรรยากาศ แบบสบายๆ แต่ถ้าเที่ยบกับ เมืองเก่าลี่เจียง ยังถือว่าความสวยงามห่างไกลกันมาก


โรงถ่ายภาพยนตร์ โรงถ่ายละครชื่อดัง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จากบทประพันธ์อันลือลั่นของกิมย้ง ซึ่งใช้สถาน ที่ของเมืองต้าหลี่เป็นที่ถ่ายทำ
ภาพเมืองต้าหลี่ http://www.terragalleria.com/asia/china/dali/dali.html

เหนือเมืองต้าหลี่ขึ้นมาเป็นเมืองโรแมนติค เมืองลี่เจียง แบ่งเป็น 2 เขตคือเขตเมืองเก่าลี่เจียง เรียกว่า ต้ายั่น และ รอบนอกเป็น เมืองใหม่เป็นที่ตั้งของโรงแรม และอาคารพาณิชย์

สถานที่เที่ยวสำคัญ :

เขตเมืองเก่าลี่เจียงได้รับการยกย่อง เป็นมรดกโลกทาง วัฒนธรรม ปี ค.ศ.1997 เมืองเก่าลี่เจียงจะงดงาม ด้วยสภาพแวดล้อม การจัดผังเมืองและถนนหนทาง ให้มีสายน้ำและถนน ทอดยาวควบคูกันไป หากเปรียบ สายน้ำสายเล็กสายน้อย ที่ไหลซอกซอนอยู่ในเมืองเก่าเป็นเสมือนเส้นเลือด ถนนที่ทอดตัวไปทุกตอก ซอกซอยก็ต้องเป็นโครงกระดูก โดยมีข้อต่อเป็นสะพาน ที่พาดผ่าน สายน้ำสายต่างๆ ที่มีจำนวนถึง 354 สะพาน และกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ย่อมหนีไม่พ้น บ้านเรือนโบราณ ที่มีความโดดเด่น ทางสถาปัตยกรรม ซึ่งแต่งแต้มด้วย เสน่ห์แห่งไม้ดอก อาหารท้องถิ่นอันหลากหลาย ภาพวาดงานศิลปะ และดนตรีที่อบอวล อยู่ทั่วทั้งเมือง ดังสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ได้เดินเที่ยวชมเมื่องเก่าลี่เจียงยามค่ำคืน นั่งจิบเครื่องดื่ม ฟังเสียงสายน้ำไหล เค้าคละเสียงร้องของสาวเผ่านาซี ที่ร้องโต้ตอบกันยามค่ำคืน

ภูเขาหิมะมังกรหยก (Yulong Xueshan - Jade Dragon Snow Mountain) ภูเขาหรือเทือกเขาหิมะมังกรหยก เป็นเทือกเขายาว 35 กิโลเมตร กว้าง 12 กิโลเมตร มียอดเขาสูงปกคลุมตลอดปีถึง 13 ยอด เป็นแหล่งของพืชพันธุ์นานาชนิด ประมาณว่าครึ่งหนึ่งจาก 13,000 ชนิดที่พบในยูนนานถูกค้นพบที่นี่ โดยเฉพาะดอกอะเซเลีย พริมโรส ลิลลี่ คาเมลเลีย ส่วนสมุนไพรที่ขึ้นชื่อคือ ตังฉั่งเช่า หรือตงฉงเฉ่า (Dong Chong Cao) ซึ่งสามารถลือกการเที่ยวชม ได้เป็น 3 ทางด้วยกัน

กระเช้าตัวสูงสุดหรือ อวี๋โหม่วผิง ด้านบนจะเป็นยอดภูเขาหิมะ ปกคลุมด้วยหิมะทั้งปี สูง 4,250 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีผลต่อผู้ที่แพ้ความสูง และผู้ที่ปรับตัวเข้ากับระดับ ความสูงได้ช้า
กระเช้าสูงอันดับสอง เหมาหนิวผิว ด้านบนเป็นจุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยก สูงประมาณ 3,600 เมตรจากระดับน้ำมทะเล ซึ่งมีผลต่อผู้แพ้ความสูงบ้าง แต่ด้วยความงดงามของ จุดชมวิวค่อนข้างมีน้อย จึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยม
กระเช้าสุดท้าย เหวินซานผิง ด้านบนเป็นจุชมวิวและเป็นทุ่งโลงเหวินซานผิง สูงประมาณ 3,100 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทให้ไม่มีผลหรือมีผลน้อยมาก ต่อผู้ผูแพ้ความสูง เนื่องด้วยจุดชมวิวนี้ อยู่ระดับต่ำ แต่สามารถมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้ในมุมที่งดงาม จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

โค้งแรกของแม่น้ำแยงซีเกียง ระหว่างทางจากลี่เจียงไปเมืองจงเตี้ยน จะพบกับทัศนียภาพโค้งแรกของแม่น้ำ แยงซีเกียงที่ไหลมาจากธิเบต เลี้ยวจากใต้มุ่งสู่เหนือ โดยตีโค้ง 180 องศา แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำอีก สายหนึ่งกลายเป็นแม่น้ำแยงซีเกียงที่สำคัญ ยาวเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ด้วยจุดชมอยู่ระดับ เดียวกันกับตัวแม่น้ำ จึงทำให้ไม่สามารถ มองเห็นภาพโค้งน้ำอันงดงามได้

หุบเขาเสือกระโจน (Hutiao Xia - Tiger Leaping Gorge) ตั้งอยู่บน แม่น้ำจินซาเจียง (แยงซีเกียง) ความลึกโดยวัดจากระดับผิวน้ำไปจนถึงยอดเขาซานจือโต่ว ถึง 3,786 เมตร มีแก่งน้ำเชี่ยว 18 แก่ง น้ำตก 3 แห่ง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 28 กม. จุดที่นักท่องเที่ยวจะ ได้เข้าไปชมคือจุดที่แคบที่สุดเพีงจุดเดียว เบื้องล่างจะมีลานกว้างให้ยืนชมสายน้ำไหลเชี่ยวกรากซอกซอนมา จนถึงโตรกเสือกระโจน ซึ่งบริเวณนั้น จะมีก้อนหินมหึมากั้นขวางกลางแก่งน้ำไว้ ทำให้สายน้ำที่ไหลมากระแทกกับหินอย่างแรงและไหลอ้อมหินไป
อากาศบริเวณนี้จะค่อนข้างเย็น เพราะแรงลมที่พัดมาตามช่องเขา และมีละอองน้ำกระเซ็นไปทั่ว ขากลับก็ จะต้องเดินไต่ระดับขึ้นมาทางเก่า

บึงมังกรดำ (Black Dragon Pond) บึงมังกรดำอยู่ภายในอุทยานยวี้เฉวียน เคยเป็นพระตำหนัก แปรพระราชฐานของ ฮ่องเต้เฉียนหลง ในอดีตหลายร้อยปี ปัจจุบันภายในอุทยานนี้ได้รับการปรับปรุงเป็น สวนสาธารณะที่สวยงาม เป็นจุดชมความงดงามของ ภูเขาหิมะมังกรหยกสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ของเมืองลี่เจียง เลยทีเดียว ภาพภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง เบื้องหน้าเป็นศาลาเก๋งจีนยืนเข้าไปใน สระน้ำมังกรดำ มีศาลาพักผ่อนแบบเก๋งจีน สองข้างทาง ร่มรื่นด้วยต้นเกาลัด เหมาะเป็นที่พักผ่อนอย่างยิ่ง

 

เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian) เมืองหลวงของเขตปกครองตี๋ชิง มีพื้นที่มากที่สุด ประมาณ 50 % ของพื้นที่ทั้งหมด แต่มี ชาวทิเบตเพียง 40% จากการที่เป็นเมืองหลวง และเป็น ประตูเข้าออกของเขตปกครองตี๋ชิ่ง จึงทำให้เมืองจงเตี้ยน เป็นเมือง ศูนย์กลางการค้า การแลกเปลี่ยนของคนฑิเบต เมืองนี้จึงมีผู้ คนหลากหลายถิ่นฐานมาหากิน ทั้ง ชาวฮัน ชาวจีนอิสลาม และชาวนาซี และอื่นๆ หลายคนใช้ชื่อ แชงกรีล่า ที่รัฐบาลจีนเปลี่ยนให้ใหม่ของเมืองจงเตี้ยน ว่าเมืองนี้แชงกรีล่าของ คนทั่วโลก แต่จากองคประกอบแล้ว พวกเรา ไอดีล ทราเวลมองว่าไม่น่จะไช่ เพราะความ สวยงามของธรรมชาติก็มีมีน้อย ผู้คนก็ปะปนคละเคล้า แหล่งกำเหนิดแม่น้ำ 3สายก็ไม่มี ภูเขาหิมะก็ ไม่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี

สถานที่เที่ยวสำคัญ :

วัดซงจ้าน (Songzanlin) เป็นวัดลามะเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 17 อายุประมาณ 300 ปี อาคารหลักมีเสา 108 ต้น และกว้างใหญ่พอจะบรรจุศาสนิกชนได้ถึง 1,600 คน มีพระลามะจำพรรษาอยู่มากกว่า 700 รูป เป็น วัดที่เริ่มต้นสร้างขึ้นสมัยดาไลลามะองค์ที่ 5 ในปี พ.ศ. 2222 ใช้เวลาในการสร้าง 18 ปี มีการตกแต่งต่อเติ่ม ในปี พ.ศ.2543 ให้รูปแบบคล้าย พระราชวังโปตาลา ของเมืองลาซา
รายละเอียด http://www.talesofasia.com/china-zhongdian.htm

ทะเลสาบนาพา (Napa Lake) พื้นที่ราบโดยรอบเมืองแชงกรีลา ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาหิมะที่สูงราว 3,000-5,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เส้นทางจากจงเตี้ยน ไปยังเต๋อชินจะพาดผ่านไปบนเทือกเขาสูงเหล่านี้ นอกชาน เมืองเพียงเล็กน้อยจะผ่านที่ราบลุ่มนาพา (Napahai) ทุ่งหญ้าและบึงน้ำผืนใหญ่ ที่ชาวฑิเบตจะนำฝูงม้า และจามรี มาปล่อยหากินหญ้าที่นี่

อุทยานธารขาว ไป๋สุ่ยไถ่ (Baisuitai ) ชั้นหินปูนที่เกิดจากการตกตะกอนของสารคาร์บอเนต สายน้ำไหล เอื่อยๆจนตะกอนหินปูนจับตัวเป็นอ่าง เป็นชั้น เรียงรายลดหลั่นลงบนหน้าผาสูง กว้างกว่า 100 ม. เหมือนกับ ปามุทคาเล่ ที่ตุรกี หรือที่อุทยานเยลโล่สโตน ในอเมริกา แม้ว่าเล็กกว่า แต่ทัศนีย์ภาพองค์ประกอบ โดยรอบงดงาม และตระการตา แต่อยู่ห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปราว2-3ชั่วโมง

เมืองเต๋อชิง (Deqin) นับเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต ที่มีภูเขาหิมาลัยด้านตะวันออก (ในดินแดนของจีน) ซึ่งซ่อนตัว อยู่ชายคาโลก เมืองเล็กๆ ในหุบเขาหิมะ เมืองที่ชนพื้นเมือง เป็นชาวฑิเบต เมืองที่มีต้นกำเหนิดสายน้ำทั้ง 3สาย 1.แม่น้ำแยงซีเกียง [Jinsha Jaing] 2.แม่น้ำโขง[ Langcang Jiang ] 3.แม่น้ำสาละวิน [Nu Jiang] เมืองที่ผู้คน ยิ้มแย้มแจ่มใส อยู่กันอย่างสงบ เรียบง่าย นี่แหละไช่ แชงกรีล่าของพวกเรา

สถานที่เที่ยวสำคัญ :


อารามตงจูหลิน Dhondrupling Gompa (DongZhuLin Si) อารามตั้งอยู่บนหน้าผาสูง สร้างใน ค.ศ. 1667 สมัยกษัตริย์คังซี เป็นเขตคุ้มครองด้านวัฒนธรรมของยูนนาน ปัจจุบันมีพระลามะหมวกเหลืองประมาณ 300 รูป จำวัดแห่งเดียวในจีน จากวัดสามารถชมทัศนียภาพภูเขาหิมะป๋ายหมังและภูเขาหิมะเหม่ยหลีได้

 

โค้งหัวเต่า หรือโค้งแรกแม่น้ำจินซาเจียง [Jinsha Jiang First Bend] จุดชมวิวของโค้งแม่น้ำจินซา หรือแม่น้ำทรายทองที่ซึ่งจุดชมวิวอยู่ที่ด้านบน จึงทำให้สามารถมองเห็นภาพโค้งน้ำที่งดงาม มีลักษณะ คล้ายหัวเต่า สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามมากแห่งหนึ่งของเส้นทางแชงกรีล่า

ยอดภูเขาหิมะไป๋ม่า จุดสูงสุดของเส้นทางสูงถึงระดับ 4,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็น ทัศนีย์ภาพของเทือกภูเขาหิมะที่เรียงรายอยู่โดยรอบได้สุดสายตา ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือน เมษายน จะมีหิมะปกคลุมทำให้งดงามมากยิ่งขึ้น

เส้นทางถนนชมเทือกภูเขาหิมะเหม่ยหลี่ เส้นทางช่วงข้ามผ่านภูเขาหิมะไป๋หมาง เสมือนหลุดเข้าไป ในอีกโลก ทัศนีย์ภาพตลอดทางที่ผ่านมา กับตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหมือนเราได้ เข้าสู่อุทยาน ธรรมชาติขนาดใหญ่ ตลอดทางสามารถชมความงดงามของเทือกภูเขาหิมะเหมยหลี่ ได้หลากหลายมุมมอง ทั้งตลอดสองข้างทาง ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน จะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบพันปี ถ้าเป็นช่วง เดือนตุลาคมถึเดือนพฤศจิกายนก็จะงดงามด้วยใบไม้เปลี่ยนสี

จุดชมวิวภูเขาหิมะเหมยหลี่ เจดีย13องค์ ประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าเมืองเต๋อชิง เป็นจุดชมวิวที่มี เจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เรียงราย 13องค์ไว้เพื่อสัการะภูเขาหิมะเหมยหลี่ พร้อมธงมนต์ตรา 5 สี ของ ชาวทิเบต ประกอบด้วยสีแดง หมายถึงไฟ สีขาวหมายถึงเมฆ สีเขียวหมายถึงต้นไม้ สีเหลืองหมายถึงดิน สีฟ้าหมายถึงท้องฟ้า ธงแต่ละสีจะมีคาถาหรือคำสวดมนต์เขียนไว้บนผ้าทุกผืน ชาวทิเบตเชื่อว่าเมื่อใด ที่ธงปลิวสะบัดนั้น แสดงว่าสายลมได้ช่วยสวดมนต์ แทนพวกเขาบอกถึงความศรัทถาแด่เทพเจ้า ของพวกเขาได้้ ดังนั้นตามเจดีย์ทิเบต จึงมักพบธงคาถาผูกในบริเวณใกล้เคียงเสมอ เป็นจุดเก็บภาพ ที่ระลึกได้ อารมณ์ของแชงกรีล่าอย่างแท้จริง

หมู่บ้านและธารน้ำแข็งหมิงหย่ง (Mingyong Bingchuan) หมู่บ้านหมิงหย่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาหิมะเหม่ยหลี เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาชมธารน้ำแข็งหมิงหย่ง (Mingyong Glacier) ที่มีความยาว 12 กิโลเมตร ถือว่าเป็นธารน้ำแข็งที่ต่ำที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ธารน้ำแข็งนี้เกิดจากการทับถมของหิมะบนยอดเขาคาเกอโป ที่มีการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ จากความสูง 5,500 เมตร ลงสู่แม่น้ำที่ระดับความสูง 2,700 เมตร และสะสมรวมตัวกันหนามาก จนเกิดการอัดตัวและการตกผลึกของหิมะ ในการไปชมธารน้ำแข็งหมิงหย่ง จะต้องใช้ม้าเป็นพาหนะในการไต่ภูเขา โดยจะมีเจ้าของชาวทิเบตเป็นผู้จูงให้ และอาจมีบางช่วงที่คนต้องลง จากม้าแล้วเดินไปบนสะพานไม้อ้อมเขาในขณะที่ม้าต้องเดินไต่ไปตามขอบผา อันเป็นเส้นทางเก่า การเดินทางโดยม้าจะใช้เวลาประมาณเกือบๆชั่วโมง โดยม้าจะไปรอที่หน้าวัดเทียนซื่อหรือไท่สื้อเมี่ยว ที่ แปลว่าโอรสจักรพรรดิ จากวัดสามารถเดินต่อไปชมธารน้ำแข็งแบบใกล้ๆได้ และสามารถเดินขึ้นบันไดที่ สร้างขึ้นไว้เป็นจุดชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด

วัดเฟยไหลซื่อ (Fei Lai Si) สร้างราว ค.ศ. 1816 เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปปั้นเทพนาเคอจาซี ผู้สิงสถิต ณ ยอดเขาคาเกอโป 1 ใน 8 ยอดเขาเลื่องชื่อของทิเบต วัดแห่งนี้มีความสำคัญเพราะเป็นที่ตั้งสถูปอนุสรณ์ ของนักปีนเขาชาวจีน 5 คนและชาวญี่ปุ่น 12 คน ที่พยายามพิชิตยอดเขาคาเกอโป วัดนี้จะตั้งเด่นเป็นสง่า มองเห็นหุบเขาที่มีแม่น้ำหลินชางไหลคดเคี้ยวเป็นงูเลื้อย จะเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่แปลกตา
บริเวณหน้าวัดจะมีชาวบ้านมาตั้งแผงจำหน่ายเครื่องสักการะเทพยดาแห่งขุนเขาหิมะเหม่ยหลีเต็มไหล่ทาง เครื่องสักการะจะประกอบด้วยใบสนภูเขา และธุปแบบทิเบต รวมกับธงคาถา (หรือผ้ายันต์ 5 สี) เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว คนขายจะพาไปไหว้ที่เตาเผา เอาใบสนภูเขายกถวายแล้วหย่อนลงเตาพร้อม กับจุดธูป จากนั้นคนขายจะไปเอาน้ำมาให้เทใส่มือแล้วสะบัดลงเตา ส่วนธูปที่จุดแล้วนำมาปักที่เตา และปักตามประตูทางเข้าพระเจดีย์ ที่เหลือปักตามเจดีย์จนหมด ส่วนธงคาถา 5 สี นำไปผูกไว้ตาม ที่จัดไว้ให้เป็นอันเสร็จพิธี ชาวทิเบตถือว่าใครทำพิธีดังกล่าว จะประสบโชคดี เดินทางปลอดภัย ประสบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต